1. ทำไมหลายบริษัทที่ต้องติดต่อกับลูกค้าทางโทรศัพท์จึงนิยมใช้บริการ
Outsource แทนที่จะจัดตั้ง Call Center ของตัวเอง |
ตอบ
การจัดตั้ง Call Center ของบริษัทขึ้น เองนั้น
ทางบริษัทต้องลงทุนในเรื่องระบบ ค่อนข้างสูง ซึ่งถ้ามีจำนวนสายที่ให้บริการไม่มากพอ
ต้นทุนค่าระบบมักจะไม่คุ้มค่าการลงทุน อีกทั้งยังต้อง
ใช้เวลาในการพัฒนาทีมงานให้มีศักยภาพในการให้บริการ ซึ่งเป็นเรื่องที่อาศัยระยะเวลาและประสบการณ์พอสมควร
ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะใช้บริการ Call
Center การลงทุนจัดตั้ง Call Center เองจึงไม่เป็นที่นิยม
เพราะต้องอาศัยทั้งเวลาและต้นทุนเรื่องคน และเรื่องระบบค่อนข้างสูง
ตรงข้ามกับ การ Outsource Call Center ที่เป็นมืออาชีพ
จะช่วยตอบโจทย์ปัญหาข้างต้นได้อย่างสมบูรณ์ดังนี้
•
ประหยัดเวลาในการฝึกอบรมพนักงาน
•
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเรื่องระบบ
•
บริการที่ให้กับลูกค้ามีรูปแบบการให้บริการที่มีมาตรฐาน
บริการได้ครอบคลุม และสามารถตรวจสอบได้
•
ลดความเสี่ยงในการให้บริการที่ผิดพลาด ไม่ต้องลองผิดลองถูก
เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้บริการ
•
เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า เพราะสามารถติดต่อได้ง่าย คือสามารถให้บริการได้ตลอด
24 ชม.
|
2.
การมี Call Center ทำให้ธุรกิจดีขึ้นได้อย่างไร? |
ตอบ
Call Center ทำให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นได้ เพราะ ในยุคการแข่งขันปัจจุบันการติดต่อสื่อสารไปยังลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกธุรกิจต้องคำนึงถึง ทั้งนี้หากการสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพย่อมก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมามากมาย
เช่น การให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง, รูปแบบการให้บริการที่ไม่มีมาตรฐาน
หรือการให้บริการไม่ครอบคลุม ซึ่งปัญหาดังกล่าวมาข้างต้น
จะนำมาซึ่งความสูญเสียที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ด้วยเหตุนี้
Call Center จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้ธุรกิจของท่าน
ปลอดภัยในความเสี่ยงต่างๆ อีกทั้งยังทำให้ธุรกิจของท่านเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
|
3.
รูปแบบการให้บริการที่ Call Center มีให้คืออะไร? |
ตอบ การให้บริการของ Call Center
แบ่งออกเป็น การให้บริการเชิงรับ (Inbound) และการให้บริการเชิงรุก
(Outbound) โดยมีรูปแบบการให้บริการ ดังนี้ คือ
รูปแบบการให้บริการในส่วนงาน Inbound
(เชิงรับ)
•
ORDER TAKING (รับคำสั่งซื้อ)
•
INFORMATION CONTACT CENTER (ศูนย์บริการให้ข้อมูลข่าวสาร)
•
CUSTOMER SERVICE(ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ )
•
EVENT REGISTRATION(ศูนย์ลงทะเบียน
,สมัคร , จองสิทธิต่างๆ)
รูปแบบการให้บริการในส่วนงาน
Outbound (เชิงรุก)
•
TELEMARKETING (ขายสินค้า,ให้บริการ,แจ้งข้อมูลข่าวสาร
เชิงรุกทางโทรศัพท์)
•
SURVEY (สำรวจข้อมูลผู้บริโภคทางโทรศัพท์)
•
CLEAN UP DATA (ปรับปรุงฐานข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน)
•
CUSTOMER SERVICE (บริการลูกค้าสัมพันธ์)
•
TELE BILLING REMINDER (บริการโทรนัด,เตือน เพื่อชำระค่าบริการ)
•
RESCUE (บริการขายซ้ำบิลที่ถูกยกเลิก)
|
4.
ราคาค่าบริการเป็นอย่างไร ? |
ตอบ
ราคาค่าบริการของ ICC Call Center เป็นราคาที่คำนึงถึงความพร้อม
และความคุ้มค่าของผู้ใช้บริการ โดยทางหน่วยงานจะทำการวิเคราะห์ลักษณะการบริการที่เหมาะสมกับธุรกิจ
และออกแบบการบริการอย่างเฉพาะเจาะจง โดยปัจจัยที่ใช้พิจารณาราคาค่าบริการ
ประกอบไปด้วย / งบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้ / ลักษณะการบริการ
ได้แก่ความยากง่ายในการให้บริการ เช่น เชิงรับ,เชิงรุก,งานขาย,งานบริการ
/ จำนวนวัน และเวลาในการให้บริการ เช่น จันทร์ ถึง ศุกร์
, ทุกวัน , วันละ 8 ชม. หรือ 24 ชม. / ปริมาณสายที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ต่อเดือน / เวลาการให้บริการต่อสาย เช่น อยู่ในช่วง 5
ถึง 10 นาที หรือ มากกว่า 10 นาที / ระยะเวลาในการจ้าง
เช่น ระยะสั้น 3 เดือน, 1ปี หรือ มากกว่า 1 ปี
|
5.
หากสนใจใช้บริการต้องทำอย่างไร ใช้เวลา Set up นานไหม? |
ตอบ
หากสนใจใช้บริการ เพียงกรอกความต้องการของท่านในแบบฟอร์มผู้สนใจใช้บริการ
ที่ เมนู Contact us ทางหน่วยงานจะติดต่อกลับท่านเพื่อให้รายละเอียดภายใน
1-2 วัน ส่วนระยะเวลาในการจัดเตรียมงานก่อนเปิดให้บริการ
ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน และการกำหนดขั้นตอนงาน ทั้งนี้โดยเฉลี่ย
ประมาณ 3 - 4 สัปดาห์ หลังจากรับทราบความต้องการทั้งหมดจากลูกค้า
|
6.
ระบบเก็บรักษาข้อมูลปลอดภัยขนาดไหน? |
ตอบ
การรักษาข้อมูลของลูกค้าเป็นนโยบายหลักของ
ICC Call Center โดยความไว้ใจของลูกค้าที่มีต่อเราถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุด
และเป็นนโยบายที่เรายึดมั่นและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ข้อมูลของลูกค้าถือเป็นความลับสุดยอด
เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการมอบหมาย เท่านั้นที่จะสามารถเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลของเราได้
(USER ACCESS MANAGEMENT) รวมทั้งมีการติดตั้งระบบ VIRUS
PROTECTION และ VIRUS DETECTION อีกด้วย
|
7.
ระบบ และ Software ที่ Call Center ใช้ มีความน่าเชื่อถือแค่ใหน
และมีประสิทธิภาพดีอย่างไร? |
ตอบ
ระบบ Software ที่ Call Center ใช้เป็นของ บริษัทคอมพิวเตอร์
เทเลโฟนี เอเชีย (ซีที เอเชีย) เป็นบริษัทสัญชาติไทยหนึ่งเดียวในธุรกิจซอฟต์แวร์คอลเซ็นเตอร์
ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศงาน Asia Pacific ICT Awards 2005
ในสาขา Communication category ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสนับสนุนกระบวนการทำงานของระบบคอลเซ็นเตอร์ให้มีขีดความสามารถระดับ
Multimedia อาทิ บริการผ่าน โทรศัพท์, E-Mail, SMS, Web
Chat ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ตามความต้องการ มีรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้งานและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสะดวก
รวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน
|
8.
การวัดผลการให้บริการ ดูได้จากอะไร มีการรายงานเป็นรูปแบบ
Report หรือไม่? |
ตอบ
ICC Call Center จะแสดงผลงานการให้บริการในรูปแบบของรายงาน
โดย ลูกค้าผู้ใช้บริการจะได้รับ รายงานมาตรฐานที่ประมวลผลออกจากระบบ
ในรูปแบบของ file Excel ทั้งนี้เนื้อหาของเอกสารประกอบไปด้วย
•
สรุปจำนวนสายการติดต่อ เชิงรับ , เชิงรุก
•
สรุปจำนวนสายตามหัวข้อการติดต่อ ที่กำหนดโดยบริษัทผู้ใช้บริการ
•
ภาพรวมการติดต่อที่เป็น เปอร์เซ็นต์การติดต่อทั้งหมด
•
จำนวนการใช้โทรศัพท์ตามจริงแจ้งเป็นช่วงเวลา หรือวันภายในเดือน
|
9.
กรณีที่ได้รับข้อร้องเรียนจากลูกค้า บริษัทมีวิธีการตรวจสอบการให้บริการของเจ้าหน้าที่อย่างไร? |
ตอบ หน่วยงานมีระบบ การอัดเทปการให้บริการ
ทุกสายการสนทนา เพื่อตรวจสอบการให้บริการของเจ้าหน้าที่
รวมถึงเพื่อหัวหน้างานสามารถแนะนำ หรือติชมการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ตั้งไว้
และเพื่อพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องและเป็นระเบียบระบบ
ทั้งนี้ลูกค้าที่ใช้บริการ Call Center สามารถ Monitor
ฟังเทปการสนทนา ที่หน่วยงานได้ ทุกวัน-เวลาทำการปกติ
|